เหมืองหิน มีลักษณะอย่างไรแบบไหนบ้าง

สินแร่เป็นทรัพยากรอีกชนิดหนึ่งที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอย่างมากรวมถึงใช้ในประเทศด้วย สินแร่เหล่านี้เป็นพื้นฐานในการผลิตสินค้าในปัจจุบัน บางชนิดก็เอาไปตกแต่งบ้านได้อีกด้วย เรามาดูกันสิว่า เหมืองหินในปัจจุบันนี้มีลักษณะแบบไหนอย่างไรบ้าง

เหมืองหิน หรือ เหมืองแร่

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า เหมืองที่เราเห็นนั้นมันคือ เหมืองหินหรือเหมืองแร่ สองอย่างนี้คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน เหมืองหินจะทำการระเบิดภูเขาเพื่อนำหินออกมาขาย เช่น หินแกรนิต หินอ่อน หินปูน เป็นต้น แต่เหมืองแร่จะเป็นการขุดเจาะเพื่อนำหินมาสกัดเพื่อหาแร่อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็นำหินไปทิ้ง หรืออาจจะนำหินไปแปรรูปขายเป็นรายได้ให้กับเหมืองอีกทางหนึ่ง
เหมืองหิน มีหินอะไรบ้าง
เหมืองหินเป็นอุตสาหกรรมที่มีมาตั้งแต่อดีตเลย หินในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด ตัวอย่างหินที่มีการทำเหมืองได้แก่ หินปูนขาว, หินอัคนี, ดินเหนียว, ยิปซัม, หินปูน, หินอ่อน, แร่ศิลา, หินฟอสเฟต, และหินทราย ซึ่งหินแต่ละชนิดก็จะมีแนวทางในการใช้ประโยชน์ไม่เหมือนกัน

ลักษณะของเหมืองหิน

การขุดเจาะเหมืองหินในสมัยนี้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนงานและขุดเจาะหินได้มากขึ้น เหมืองหินมีลักษณะสังเกตได้ง่ายเลยก็คือ จะมีทางเดินรถที่คดเคี้ยวลงไปจากปากทางเข้าเลย (คล้ายกับวนก้นหอย) ที่เป็นอย่างนั้นเกิดจากการขุดหน้าดินออกมาเพื่อนำหินไปขาย จนสุดปลายทางจะเป็นอุโมงค์เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่กำลังขุดเจาะอยู่
อีกหนึ่งแบบที่เด่นมากของเหมืองหินนั่นคือ การถาก การขูด หน้าดินของภูเขาเพื่อลอกเอาหินออกมา วิธีนี้จะใช้เครื่องมือพิเศษในการเจาะ สกัด หรือ ขุด นำหินมาจากภูเขา
โรงโม่หิน
ใกล้ๆกับเหมืองหิน จะมีการตั้งโรงโม่หินขึ้นมาด้วย เพื่อบริหารทรัพยากรหินที่ได้มาอย่างเบ็ดเสร็จ โรงโม่หินนี้จะทำหน้าที่คัดกรองหิน จำแนกหิน รวมถึงอาจจะทำหน้าที่แปรรูปหินที่ได้มาให้สามารถนำไปใช้ได้เลย เช่น หินอ่อน หินแกรนิต จะทำการขัดสี ฉวีวรรณ ให้เอี่ยมลูกค้าสามารถมาสั่งซื้อไปปูกระเบื้อง ปูพื้นได้ตามต้องการในเวลาไม่นาน อีกทั้งเศษหินที่เหลือจากการโม่จะนำไปแปรรูปอีกครั้งเพื่อนำไปขาย

เหมืองหินกับแม่น้ำ

มรดกสำคัญของเหมืองหินนั่นคือ แม่น้ำที่เกิดขึ้นจากการขุดเหมืองหิน(เวลาขุดไปเจอน้ำใต้ดินผุดขึ้นมา เหมืองจะเอาน้ำตรงนี้มาหล่อเลี้ยงหิน) แม่น้ำหรือแหล่งน้ำเหล่านี้ไม่สามรถนำน้ำไปใช้บริโภค หรือ อุปโภคได้ เนื่องจากมีสารพิษเจือปนอยู่ แต่สามารถพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เช่นกัน